01KTE1S1_02052024.indd
วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
การเมือง กรุงเทพธุรกิจ ktplt@nationgroup.com
9
ส่งตัวแทนคนชิงเก้าอี้สภาสูง โดยตั้งเป้าไว้ ราว 70-100 คน ทว่าตามหลักกติกากฎหมาย แล้วไม่สามารถสนับสนุนบุคคลใดเข้าไป เป็น สว.ได้ จึงต้องเดินหมากแคมเปญให้ ประชาชนเข้าไปสมัคร สว.เพื่อไปโหวต เลือก สว.แทน ในส่วนนี้เองถูก สว.ชุดปัจจุบันบาง คนตั้งคำ� ถามและวิพากษ์วิจารณ์ “ธนาธร” อย่างหนัก โดยอ้างว่า การรณรงค์ดังกล่าว อาจเข้าข่าย “ฮั้ว” ให้มีประชาชนเข้าไปเลือก สว. พร้อมกับส่งสัญญาณดังๆ ไปยัง กกต. ออกมาตรวจสอบห้ามปรามโดยด่วน หลังจากนั้นไม่นาน กกต.ออกเอกสาร ข่าวเผยแพร่เมื่อ 26 เม.ย.ระบุว่า การรณรงค์ เชิญชวนขององค์กรที่ให้ประชาชนไป สมัคร สว. รวมถึงไปกรอกข้อมูล จุดยืน วิสัยทัศน์ในเว็บไซต์ อาจเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งวุฒิสภา 2561 ได้ พร้อมกับ ขอให้บุคคลที่จะสมัคร สว.มิให้กรอกข้อมูล จุดยืน และวิสัยทัศน์ในเว็บไซต์ดังกล่าว เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ “ธนาธร” น�ำ ทัพ “คณะก้าวหน้า” ไปเดินสายลงพื้นที่ รณรงค์ “สว.ประชาชน” ตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ทว่าหลังจาก กกต.ออกเอกสารข่าว ดังกล่าว ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจาก “ธนาธร” ว่าจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร มีเพียง “ไอลอว์” ที่สวนทันควันหลัง กกต.เผยแพร่ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปราย แล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำ� เนา เอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำ� หนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่ วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณา วินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ขยาย 15 วันให้ ก.ก.แจงคดียุบพรรค นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังประชุม ปรึกษาคดีที่น่าสนใจ เรื่องพิจารณาที่ 10/2567 กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมี ค� ำสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยนายทะเบียน พรรคการเมืองยื่นค� ำร้องกรณีมีหลักฐาน อันควรเชื่อว่าพรรคก้าวไกล (ผู้ถูกร้อง) มี พฤติการณ์กระท�ำการล้มล้างการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำ� การ อันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ อันเป็น เหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้อง ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาค� ำร้อง ของผู้ถูกร้อง ฉบับลงวันที่ 23 เม.ย. ขอขยาย ระยะเวลายื่นคำ� ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่สอง ออกไปอีก 30 วัน นับถัดจากวันครบกำ� หนด ขยายระยะเวลาครั้งแรกแล้ว จึงมีคำ� สั่งอนุญาต ให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน นับตั้งแต่ วันที่ 3 พ.ค. ซึ่งจะครบกำ� หนดยื่นคำ� ชี้แจงแก้ ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 18 พ.ค. รมต.ใหม่ถวายสัตย์ 3 พ.ค. ความคืบหน้าการแต่งตั้ง รมว.การ ต่างประเทศ ภายหลังนายปานปรีย์ พหิทธานุกร “ถ้าอยากจะทำ� การเมืองสามก๊กให้กลับ มาเป็นปกติ เป็นการเมืองในรัฐสภาปกติ ทั่วไป ที่พรรคการเมืองแข่งขันกันในเชิง นโยบาย ประชาชนชอบนโยบายของพรรคไหน ก็ไปเลือกพรรคนั้น ถ้าเราอยากให้การเมือง กลับมาปกติอย่างนี้ การเลือก สว.ครั้งนี้จึงเป็น จุดเริ่มต้นที่สำ� คัญ ในการคลี่ปมออก เราจะ สมานฉันท์ เราจะปรองดองกันได้ ก็ต่อเมื่อ มีความเป็นธรรม” “ธนาธร” เห็นว่าการเลือก สว.ชุดใหม่ 200 คนจาก 20 กลุ่มอาชีพจะเป็นการ คลี่คลายการเมือง “สามก๊ก” ได้ เพราะถ้า กติกาทางการเมืองมีความเป็นธรรมและเป็น กลางเมื่อไร ไม่มีสองมาตรฐานเมื่อไร ทุกคน จะกลับมาเล่นบนสนามการเมืองปกติ ลักษณะสามก๊กมันจะคลี่คลายลง ถามถึงโอกาสที่ก๊กก้าวไกลจะเป็น พันธมิตรทางการเมืองกับ “พรรคเพื่อไทย” ได้อีกหรือไม่นั้น “ธนาธร” ระบุว่า อนาคต คงพูดยาก เพราะโอกาสที่พรรคก้าวไกล พรรคเดียวจะได้เกิน 251 เสียงนั้นมีแต่ น้อยมาก และต้องทำ� งานอีกเยอะเลย เพื่อ ทำ� ให้ประชาชนเห็นว่าพวกเราจริงจังกับการ พัฒนาประเทศ พวกเรามีศักยภาพ พวกเรา มีวุฒิภาวะมากพอที่จะพาประเทศไปข้าง หน้า ถึงแม้พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่ ผ่านมาจะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แต่ก็ต้อง ยอมรับว่ายังมีประชาชนจำ� นวนมากที่ไม่ได้ เลือกพรรคก้าวไกล “ธนาธร” ยำ�้ ว่า “มีโอกาสข้ามเส้น 251 เสียง พรรคก้าวไกลพรรคเดียวไหม มี โอกาส แต่ไม่ง่าย”
ไม่กี่ชั่วโมง โดยอ้างว่าเอกสารข่าวของ กกต. ฉบับนี้ “เผยแพร่ข้อมูลเท็จ” ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบกฎหมายแล้ว ไม่มีฉบับใด อ้างว่าห้ามมิให้รณรงค์ประชาชนไปสมัคร สว. นอกจากนี้ยังอ้างว่า ปัจจุบันยังไม่มี พ.ร.ฎ.เลือก สว.บังคับใช้ จึงไม่ผิดกฎหมาย แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวจากสำ� นักงาน กกต.แจ้งว่า ทางการข่าว กกต.มิใช่เพิ่งมา ตรวจสอบข้อมูลในตอนนี้ แต่เก็บข้อมูล เกี่ยวกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคลในการสมัคร สว.มาระยะหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ การตรวจสอบมิใช่เพ่งเล็ง แค่ “คณะก้าวหน้า” แต่รวมถึงบรรดา “บ้านใหญ่-นักเลือกตั้งอาชีพ” อีกด้วย ในส่วนประเด็นการตรวจสอบ “คณะก้าวหน้า” นั้น แหล่งข่าวจาก กกต. ระบุว่า การเลือก สว.ชุดใหม่ปี 2567 ตาม หลักการรัฐธรรมนูญปี 2560 ผู้สมัครต้อง ประสงค์ลงสมัครด้วยตัวเองเพื่อเป็น สว. แตกต่างจากการเลือก สว.เดิมปี 2561 ที่ต้อง ยึดบทเฉพาะกาล และมีบางส่วนมาจากการ สรรหาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังนั้น การที่องค์กรหรือหน่วยงานใด รณรงค์ให้มีผู้สมัคร สว.นั้น อาจเข้าข่าย ผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 หลายมาตราด้วยกัน เช่น มาตรา 77, 79, 81 เป็นต้น ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำ� แหน่งเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2567 ต่อมาราชการกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2567 ให้ ความเป็นรัฐมนตรีของนายปานปรีย์ สิ้นสุดลง ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. และเผยแพร่ประกาศ แต่งตั้ง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เป็น รมว. การต่างประเทศ สำ� หรับความเคลื่อนไหว หลังมีพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจาก ตำ� แหน่ง และแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำ� นักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีได้ประสานแจ้งให้รัฐมนตรีชุดใหม่ เตรียมความพร้อมเพื่อรอเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ ปฏิญาณก่อนปฎิบัติหน้าที่ในช่วงเย็นวันที่ 3 พ.ค.นี้ โดยให้รัฐมนตรีใหม่ เดินทางมาพร้อมกันที่ ตึกสันติไมตรี ในเวลา 15.00 น. เพื่อถ่ายรูป ทำ� บัตรประจำ� ตัว ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะนำ� ครม.ชุดใหม่ เดินทางเข้าเฝ้าฯ ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่าในวันที่ 3 พ.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือแจ้งลาราชการใน ช่วงครึ่งวันเช้า “มาริษ” มั่นใจลูกหม้อกำ� กับ กต.ได้ ส่วนความเคลื่อนไหวของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศคนใหม่ ตอบค� ำถามผู้สื่อข่าว ที่ตึกสันติไมตรี ทำ� เนียบรัฐบาล วานนี้ (1 พ.ค.) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้มอบหมายงาน เพราะตนยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ “ผมยืนยันว่าไม่หนักใจ เพราะผมก็ ท� ำงานร่วมกับท่านปานปรีย์มาโดยตลอด ผมก็เคยทำ� งานรับตำ� แหน่งเอกอัครราชทูต มา และผมก็เป็นลูกหม้อของกระทรวงการ ต่างประเทศ ผมจึงไม่หนักใจ ที่สำ� คัญนายกฯ แต่ถ้าสมการทางการเมืองในการเลือกตั้ง ครั้งหน้า เกิดกรณี “ก้าวไกล” ไม่ข้ามเส้น 251 เสียงนั้น “ธนาธร” บอกว่า ต้องดูงานและ หาพันธมิตรทางการเมืองที่ยอมรับได้กับ นโยบายของพรรคก้าวไกลให้เป็นนโยบายนำ� ในการพัฒนาประเทศ โดยตั้งเป้าว่ารัฐบาล พรรคก้าวไกลในอนาคต รวมมีตัวเลข สส. จากพรรคร่วมไม่น้อยกว่า 280-290 เสียง และพรรรคก้าวไกลก็คงยินดีที่จะร่วมงานกับ พรรคการเมืองที่ยอมให้ใช้นโยบายของพรรค ก้าวไกลเป็นนโยบายหลักในการขับเคลื่อน รัฐบาล เมื่อถามย�้ำว่า แสดงว่าพรรคก้าวไกล จะยังไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่เป็นเครือ ข่ายของขั้วอ� ำนาจเก่าอนุรักษนิยม หรือ พรรคลุงใช่หรือไม่ “ธนาธร” ตอบว่า “ยินยอม หรือไม่ยินยอม มันคงน่าจะเกี่ยวข้องกับการ บริหารประเทศมากกว่า ว่าพรรคอันดับหนึ่ง ควรได้ใช้นโยบายของตัวเองเป็นนโยบาย แกนในการพาประเทศไปข้างหน้า ส่วน พรรคร่วมถ้ามีนโยบายที่ดี และเห็นตรง กันได้ ก็เอาเขามาร่วมในนโยบายได้ใน การขับเคลื่อนประเทศ แต่แกนหลักของ การขับเคลื่อนประเทศ ต้องเป็นนโยบาย หลักของพรรคอันดับหนึ่ง” ขณะเดียวกัน “ธนาธร” ยังตอบถึง ผลสำ� รวจของ “นิด้าโพล” เรื่อง “การสำ� รวจ คะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/2567” ซึ่งพรรคก้าวไกล และ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกฯ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผลส� ำรวจยังชี้ว่า “พิธา” คืออันดับหนึ่งที่
ส�ำหรับมาตราที่ส�ำคัญคือ มาตรา 77 ที่ระบุสาระส�ำคัญ ห้ามจูงใจให้ผู้อื่นสมัคร เข้ารับเลือกเป็น สว. หรือถอนการสมัคร หรือกระท� ำการใดๆ ให้ผู้นั้นหมดสิทธิ ที่จะเลือกหรือได้รับเลือกเป็น สว. หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิ ลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด โดยมีโทษจำ� คุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000 200,000 บาท หรือทั้งจ� ำทั้งปรับ และให้ศาล เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ส่วนมาตรา 79 และ 81 คือมาตรา ที่ก� ำหนดโทษเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในการ จูงใจไปสมัคร สว. หรือเพื่อเลือกผู้หนึ่ง ผู้ใด โดยมีอัตราโทษเหมือนกัน คือจ�ำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือ ทั้งจ� ำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิ เลือกตั้ง 20 ปี เมื่อ กกต.รับลูก สว.ออกโรงสกัดขา “คณะก้าวหน้า” ในแผนศึกชิงเก้าอี้สภา สูง อย่างเต็มข้อ สะท้อนให้เห็นว่าความ เคลื่อนไหวของ “องคาพยพสีส้ม” ยังคง อยู่ใน “สายตา” ของ “ฝ่ายอนุรักษนิยม” ซึ่งจะประมาท “พลพรรคสีส้ม” ไม่ได้อย่าง เด็ดขาด หมากเกมนี้ “ธนาธร” ในฐานะ “ศาสดา สีส้ม” จะแก้แผนชิงเหลี่ยมเกมนี้ให้กลับมา อย่างไร ต้องรอลุ้น กับผมเจอกันตลอดเวลา เรารู้จักกันดี และ รู้ว่าจะทำ� งานร่วมกันได้อย่างไร” นายมาริษ กล่าว กางปฏิทินทัวร์นกขมิ้น-ครม.สัญจร 6 จว. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงปิดสมัยการ ประชุมสภาฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้มีดำ� ริจัดกิจกรรมทัวร์นกขมิ้น เพื่อลงพื้นที่ ต่างจังหวัดแบบคำ�่ ไหนนอนนั้น โดยกางปฏิทินไว้ ดังนี้ วันที่ 10 พ.ค. สุพรรณบุรี วันที่ 11 พ.ค. กาญจนบุรี นอนค้าง วันที่ 12 พ.ค.ราชบุรี นอนค้าง วันที่ 13 พ.ค. เพชรบุรี นอนค้าง วันที่ 14 พ.ค. ครม.สัญจร จ.เพชรบุรี ขณะที่วันที่ 5- 6 พ.ค. นายกฯ พร้อม รมต. ส� ำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ น.ส.จิราพร สินธุไพร มีกำ� หนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่ ฐานเสียงของนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม โดยจะค้างแรม 1 คืน “ทักษิณ” ทัวร์ภูเก็ต-เดินสายอีสาน พ.ค. ส่วนความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไป ยัง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว โดยเดินดูบรรยากาศการท่องเที่ยว ย่านถนนบางลา ป่าตอง นอกจากนี้ ยังเยี่ยมชมสวนนำ�้ อันดามันดา ธุรกิจในเครือพราวกรุ๊ป ของบุตรสาว นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติพัฒนา โดยนายสุวัจน์ และนายพสุ บุตรชาย นำ� เยี่ยมชม ทั้งนี้ มีรายงานว่านายทักษิณ ยังเตรียม ลงพื้นที่จังหวัดในภาคอีสาน โดยจะเริ่มที่ จ.นครราชสีมา ปลายเดือน พ.ค.นี้ ประชาชนจะสนับสนุนเป็นนายกฯ ร้อยละ 42.75 และพรรคก้าวไกลยังครองความนิยม อันดับหนึ่ง ร้อยละ 48.45 “ธนาธร” บอกว่า “พวกเราคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำ� งานแค่ช่วงเลือกตั้ง เราไม่ได้แค่ท� ำงาน 3 เดือน 6 เดือนก่อน การเลือกตั้ง เราทำ� งานทุุกวัน เราเป็นพรรค การเมืองที่ทำ� งานทุกวัน แต่คนมองไม่เห็น ผมเชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันจะสร้างพลัง ปูไปสู่การเลือกตั้งปี 2570” “การประสบความสำ� เร็จของพรรคก้าว ไกลในการเลือกตั้งปี 2566 มันไม่ได้มาจาก กระแสในช่วงเดือนสุดท้ายอย่างเดียว แต่มาจากการสะสมการท� ำงานกับพี่น้อง ประชาชนตลอด 4 ปี” อีกส่วนหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ที่เป็นเหตุผล ทำ� ให้พรรคก้าวไกลยังคงครองความนิยม มาเป็นอันดับหนึ่ง ก็เกิดจากผลโดยตรงที่ พรรคเพื่อไทยฉีกเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลกับ พรรคก้าวไกล แล้วไปร่วมกับพรรคที่เคย บอกว่าจะไม่ร่วมตั้งรัฐบาล “ส่วนสำ� คัญที่ทำ� ให้คะแนนนิยมกลับ มาสู่พรรคก้าวไกล คงมีจากสองส่วน จาก ปัจจัยภายในที่พวกเราทั้ง สส.และกลไก ของพรรคทำ� หน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีกส่วนเป็นผลของการตัดสินใจ ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ท� ำให้ ประชาชนมีปัญหาเรื่องศรัทธา” ถามถึง ปี 2573 “ธนาธร” จะพ้นโทษ แบนทางการเมืองในเวลานั้นจะยังคงทำ� งาน การเมืองอยู่เช่นเดิมหรือไม่ “อดีตหัวหน้าพรรค อนาคตใหม่” ระบุว่า ไม่จ�ำเป็น ไม่เสมอไป
สกัด ‘ก้าวหน้า’ ต่อจากหน้า 12
ต่อจากหน้า 12 ❚ บนความเคลื่อนไหว กรุงเทพธุรกิจ
ปล่อยให้การโหวตเป็นเรื่องของผู้สมัคร กันเองเท่านั้น ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา “ธนาธร” นำ� ทัพ “คณะก้าวหน้า” เดินสายพบสื่อหลาย สำ� นัก อธิบายเป้าหมายรณรงค์ “เสียงอิสระ” ครั้งนี้ ยืนยันว่า เพื่อเป้าหมายในการแก้ไข ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้มีความเป็น ประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ยังไม่สามารถ คอนเฟิร์มได้ว่าจะมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมี ส.ส.ร.จากภาคประชาชน 100% ได้ หรือไม่ นอกจากนี้ยังเล็งเห็นว่า วิกฤติการเมืองไทย ที่ผ่านมา หนึ่งในต้นตอคือกรรมการ องค์กรอิสระทั้งหลาย เช่น ตุลาการศาล รัฐธรรมนูญ กรรมการ ป.ป.ช. กรรมการ กกต. เป็นต้น ดังนั้น หากรื้อโครงสร้างเหล่านี้ได้ และสรรหาบุคคลจากภาคประชาชนที่มีความ “เป็นกลาง” เข้ามา จะช่วยให้ “นักเลือกตั้ง” และ “ประชาชน” ยอมรับ เล่นใน “กติกา” ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนบางฝ่ายกังขา คือกระแสข่าวว่า “คณะก้าวหน้า” จับมือ กับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมาย ประชาชน หรือ “ไอลอว์” หารือกันเพื่อ โดยผู้ร้องเรียนเห็นว่ามาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ขัดหรือแย้งกับ มาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งบัญญัติกำ� หนด มาตรการอื่นใดที่จำ� เป็นเพื่อให้การเลือกกันเอง เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมนั้น ล่าสุด พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการ สำ� นักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุว่า ขณะนี้ กำ� ลังมีหนังสือสอบถาม และขอให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องชี้แจง โดยขอให้สำ� นักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรชี้แจงในส่วนของเจตนารมณ์ใน การออกกฎหมาย และสำ� นักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงในประเด็นตาม คำ� ร้องเรียน เพื่อนำ� มาประกอบการพิจารณา วินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินต่อไป ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุม สั่งสภาฯ-กกต. ต่อจากหน้า 12 พรรคก้าวไกลถูกยุบแน่ แต่ถ้าดูในรูปคดี ยังพอมีช่องทางอยู่ ดังนั้น ตนยังไม่ปักใจ เชื่อเสียทั้งหมดว่าจะถูกยุบแน่ “ความน่าจะเป็น เป็นเท่าไรคงตีออก มาเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ไม่ปักใจ 100% ว่า พรรคถูกยุบแน่ๆ” “ธนาธร” วิเคราะห์ถึงความพยายามที่ จะยุบพรรคก้าวไกลว่า อย่างแรก เป็นความ พยายามท�ำลายพรรคก้าวไกล เพื่อสกัด ไม่ให้พรรคเติบโต และเป็นการสั่งสอนให้ เป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อให้คนกลัว และเพื่อ ไม่ให้มีพรรคไหนมาท้าทายโครงสร้าง อ�ำนาจน�ำทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เหมือนพรรคอนาคตใหม่ และก้าวไกล ด้วยบริบทที่อดีตแกนนำ� พรรคอนาคตใหม่ ทั้ง “ปิยบุตร แสงกนกกุล” รวมถึง “พรรณิการ์ วานิช” ต่างวิเคราะห์การเมืองไทยในห้วงนี้ ว่ายังคงเผชิญศึกสามก๊ก “ก๊กเพื่อไทย ทักษิณ-ก๊กก้าวไกล-ก๊กอนุุรักษนิยม” “ธนาธร” ก็มองตรงกันกับ “ปิยบุตร” และ “พรรณิการ์” โดยเห็นว่า จะทำ� อย่างไร ให้การเมืองสามก๊กที่เราพูดกัน กลับมา เป็นการเมืองรัฐสภาปกติ โดยจุดเริ่มต้นก็ อยู่ที่ สว. เพราะหนึ่งในโครงสร้างที่ทำ� ให้เกิด สามก๊กนี้ มาจากองค์กรอิสระ เป็นกลุ่มคน ที่มีอ� ำนาจแต่ไม่ยึดโยงประชาชน ทั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะ กรรมการ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อปรึกษาคดีที่น่าสนใจ เรื่องพิจารณาที่ 8/2567 กรณีการได้มาซึ่ง สว.โดยศาลจังหวัด นครนายก ส่งคำ� โต้แย้งของจำ� เลย ในคดีอาญา หมายเลขดำ� ที่ อ 923/2566 เพื่อขอให้ศาล รัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 14 (24) ที่บัญญัติให้ ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่เป็น หรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหาร ท้องถิ่น เว้นแต่พ้นจากตำ� แหน่งดังกล่าวมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือก ขัดหรือ แย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่ง หรือไม่ อนาคต ‘ธนาธร’ ต่อจากหน้า 12
ก่อนหน้านั้น “คณะก้าวหน้า” โดย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ลงพื้นที่ “ภาคใต้-อีสาน” ทำ� กิจกรรม “สว.ประชาชน” รณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวกับ การเลือก สว. และลงสมัครชิง สว.ให้มากที่สุด เพื่อหวังให้ได้ “สว.อิสระ” ชนกับ “สว.กลุ่มบ้านใหญ่-จัดตั้ง” พร้อมกับความเคลื่อนไหวออนไลน์ของกลุ่ม “ไอลอว์” ซึ่งเป็นคณะที่ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับ “ก้าวหน้า-ก้าวไกล” เปิดเว็บไซต์เพื่อให้ “ว่าที่ผู้สมัคร สว.” เข้าไปโพสต์โปรไฟล์แนะนำ� ตัว-ประกาศเจตนารมณ์กับ สาธารณะ ซึ่งต้องเบรกชั่วคราว หลัง กกต.ออกระเบียบห้ามแนะน�ำตัว ประเด็นนี้ “ธนาธร” ตั้งข้อสังเกตว่า “ระเบียบของ กกต.ต้องการปิดกั้น และทำ� ให้การเลือก สว.รอบนี้เงียบที่สุด เพื่อหวังให้ผลการเลือก สว.มีเฉพาะ กลุ่มจัดตั้ง ประชาชนจะไม่ได้ สว.คุณภาพ” ขณะเดียวกัน การเปิดโปรไฟล์ให้กว้างขวางที่สุด และให้ประชาชน ตรวจสอบจะเป็นผลดีต่อการตัดสินใจเลือกผู้สมัครนำ�้ ดี เป็น “สว.ชุดใหม่” มากกว่าการท�ำกันเองภายในหน่วยงาน หรือเฉพาะพื้นที่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ระเบียบ กกต.ที่มีผลทำ� ให้เกิดการปิดกั้นการแนะนำ� ตัว มีผลกระทบกับทุกกลุ่ม ทุกสี เช่นกัน และอาจท� ำให้เกิดผลกระทบต่อยอด ผู้สมัครฯ ได้เช่นกัน โดยมีการ ศึกษาและถอดบทเรียนในการเลือก “สว.” ปี 2562 โดย “คณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ” วุฒิสภา แม้รอบนั้น สว.ปี 2562 จะมาโดยบทเฉพาะกาล 250 คน แต่ในจำ� นวน 50 คนนั้น ได้ทดสอบ มีวิธีการได้มาตามมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญ แม้จะลดทอนกลุ่มอาชีพให้เหลือ 10 กลุ่ม และเพิ่มการสมัครงผ่านการแนะน�ำจากองค์กรได้ อีกทั้ง กมธ.ยังได้พบประเด็นปัญหาที่ กกต.ชุด “อิทธิพร บุญประคอง” ได้รายงานต่อ กมธ.ว่า ด้วยข้อจ� ำกัดของเวลาและการประชาสัมพันธ์ ทำ� ให้ผู้สมัคร สว.และการเสนอชื่อไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 100,000 คน แต่มาสมัครเพียง 7,215 คน แบ่งเป็นสมัครด้วยตนเอง 6,705 คน และ องค์กรแนะน�ำชื่อ 510 คน เอกสารยังได้ระบุสาเหตุพิเศษว่า ขาดแรงจูงใจ เพราะกระบวนการ สรรหาในชั้นสุดท้ายที่ “คสช.” คัดเลือก และสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ออกมา เมื่อ ขาดการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงเป็นวงกว้าง ท� ำให้กระทบต่อยอด ผู้สมัคร ผลเสียที่ตามมาอีกเรื่องคือกระทบต่อวิธีการเลือก จากรายงานพบว่าปี 2562 มีการเลือก สว.ภายในกลุ่มเพียง 197 อ�ำเภอ ส่วนที่เหลือ 52 อ�ำเภอไม่มี ผู้สมัคร และ 679 อ�ำเภอมีผู้สมัครไม่ครบเกณฑ์ 3 คน ที่จะท�ำให้ผ่านไปสู่ ระดับจังหวัดได้ ต่อประเด็นนี้ กมธ.ของวุฒิสภา จึงเสนอให้มีกลไก “สร้างความตื่นตัว และรับรู้อย่างกว้างขวาง” โดยใช้ช่องทางออนไลน์เป็นตัวช่วย นอกจากนั้น ในปี 2562 ยังพบปัญหาที่เกี่ยวข้องกันคือ “การแนะนำ� ตัว” ผ่านการกรอกเอกสาร จำ� กัดเนื้อที่ ซึ่ง กกต.รายงานว่า เพื่อคุมเวลาแนะนำ� ตัวของแต่ละคน เพราะหากมีผู้สมัครจำ� นวนมากจะทำ� ให้ใช้เวลาค่อนข้างนาน เช่นเดียวกับการ “ขีดกรอบ” การกรอกข้อมูลแนะน� ำตัว เพื่อไม่ให้มี ผลกระทบต่อการจัดเก็บ และจัดส่งเอกสารของเจ้าหน้าที่ ผลเสียที่เกิดขึ้น คือ การกรอกเอกสารด้วยลายมือ อ่านยาก และข้อมูลน้อยเกินไปที่จะ ตัดสินใจได้ครบถ้วน วิกฤตินี้จึงเปิดโอกาสการหาช่องทาง “ทำ� ความรู้จัก” ผ่านวิธีอื่น จน นำ� ไปสู่การ “สมยอม” ระหว่างผู้สมัคร รวมไปถึงการ “ว่าจ้างลงคะแนน” เพื่อให้ตนเองเป็นผู้ได้รับเลือก ทั้งจากกลุ่มเดียวกัน และข้ามกลุ่ม ประเด็นที่เป็นปัญหาและผ่านการถอดบทเรียนจาก “วุฒิสภา” และส่ง เล่มรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง “กกต.” และ “รัฐบาล” รับทราบแล้ว เมื่อช่วงปลายปี 2563 หวังให้ปรับปรุงให้การเลือก “สว.2567” มีปัญหาน้อย ที่สุด และได้คนที่ตรงกับเจตนารมณ์ของกฎหมายมากที่สุด ทว่า สิ่งที่เป็นปัญหานั้น ควรตั้งค�ำถามกับ “กกต.” ด้วยว่า “3 ปี” แล้ว แก้ไขหรือยัง? ดังนั้น จึงเป็นเรื่องน่าแปลกใจกับระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำ� ตัว ที่กำ� ลังทำ� ให้สังคมกังขาและตั้งประเด็นอย่างกังวลว่า จะทำ� ให้การได้มาซึ่ง “สว.” ในระบบเลือกกันเอง ได้คนไม่ตรงปก สร้างการเมืองที่ยำ�่ รอยเดิม คือ “สภาฯ เพื่อพวกพ้อง” ไม่ใช่ “สภาฯ เพื่อประชาชน”
วัตถุประสงค์ของการเข้ามาทำ� งานการเมือง ของผม ผมอยากเห็นประเทศไทยที่ เป็นประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิ เสรีภาพ ประชาชนมีความเสมอภาคมีความ เท่าเทียม และอยากเห็นประเทศไทยที่ ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ “ถ้าประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตย มันเดินไปทิศทางที่ถูกต้อง ประชาชนมี ความหวัง ประเทศไทยมีแสงสว่าง ผมไม่ จำ� เป็นทำ� งานทางการเมืองอีกก็ได้ ถ้าผมไม่ จ� ำเป็นทางการเมืองแล้ว เมื่อวันนั้นมาถึง วันที่ถูกตัดสิทธิของผมครบกำ� หนด ถ้าผม ไม่จำ� เป็นผมก็ไม่กลับมา ผมมีอะไรอยากทำ� อีกเยอะเลย ยังอยากให้เวลากับครอบครัว ยัง อยากไปศึกษาโลกเห็นโลกกว้างให้มากกว่านี้ ยังอยากไปปีนเขา ยังมีหนังสืออีกหลายเล่ม ที่อยากอ่าน” “ถ้าครบกำ� หนดการถูกตัดสิทธิของ ผมแล้วจะกลับมาต้องมีตำ� แหน่ง ผมคิดว่า ไม่จ� ำเป็น ถ้าประเทศไทยไปในทิศทาง ที่ถูกต้องแล้ว ผมก็พร้อมวางมือทางการเมือง เช่นเดียวกัน ถ้าพรรคก้าวไกลมีบุคลากร ที่เหมาะสม มีผู้น�ำที่เหมาะสมแล้ว ผมก็ พร้อมวางมือทางการเมือง แต่กลับกัน ถ้า เวลานั้นมาถึง และความรู้ความสามารถ ของผมยังจ�ำเป็นของประเทศอยู่ ผมไม่ ปฏิเสธความรับผิดชอบ” ถามยำ�้ ว่าหากมีเสียงบอกว่า คุณธนาธร ควรเป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกครั้ง “ธนาธร” ระบุว่า “อย่างที่บอก ถ้ามีความจ� ำเป็นทาง การเมือง ก็ไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ แต่ไม่จ�ำเป็น ผมย�้ำอีกครั้ง”
นอกจากนี้ “ธนาธร” ยังเข้าใจหัวอก คนกันเองที่ประสบชะตากรรมทางการเมือง ไม่ต่างจากเขา คือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่เป็นผู้นำ� พรรคก้าวไกล และต้องมาเผชิญกับ อนาคตที่ไม่แน่นอนว่าจะถูกตัดสิทธิหรือ ไม่จากคดียุบพรรคก้าวไกล “ถ้ามีใครจะเข้าใจคุณพิธา ได้ดี ที่สุดคนหนึ่งน่าจะเป็นผมนะ เพราะสิ่งที่ คุณพิธาเจอหลังจากการเลือกตั้ง เหมือน กับสิ่งที่ผมเจอ เป๊ะเลยนะครับ หนึ่งคือ ถูกใส่ร้ายป้ายสี ถูกโจมตีมากมาย ทำ� กิจกรรม อะไรก็ถูกจับตาตลอดเพื่อหาจุดผิด เพื่อเล่น งาน เพื่อทำ� ลายศรัทธาทางการเมือง ทำ� ลาย ชื่อเสียงด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ โดนกุข่าว อะไรต่างๆ มากมาย เพื่อทำ� ลายคุณพิธา ซึ่ง เป็นสิ่งเดียวกับที่ผมเจอ หลังจากการเลือกตั้ง ปี 2562 เลย แล้วก็เจอความท้าทายของ การยุบพรรคอีก” “ถึงแม้จะถูกตัดสิทธิ ถึงแม้จะถูก ยุบพรรค ก็ฝากให้คุณพิธาเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว อย่าไขว้เขว ผมเชื่อว่าคุณพิธาก็มีความ เด็ดเดี่ยว มีความหนักแน่นตรงนั้นอยู่ ผมเชื่อว่าแม้พรรคจะถูกยุบ คุณพิธาจะถูก ตัดสิทธิ เราจะยังเห็นเขาอยู่บนแวดวงทาง การเมือง ไม่ว่าจะบทบาทใด ก็บทบาทหนึ่ง” ธนาธร พูดถึงผู้น�ำพรรคที่พลาดต�ำแหน่ง นายกรัฐมนตรี “ธนาธร” ทิ้งท้ายว่า พรรคก้าวไกล มาไกลเกินกว่าที่จะท้อถอย ความหวังที่ ประชาชนฝากไว้กับพวกเรา เป็นสิ่งที่เรา ทอดทิ้งไม่ได้ ดังนั้นเราต้องรับผิดชอบกับ ความฝันนั้น
Made with FlippingBook flipbook maker