iNews Online
วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567
กรุงเทพธุรกิจ
7 ทัศนะ
บลัมเฮาส์ถือเป็นค่ายหนังรายล่าสุดที่โดดลงมาเก็บเกี่ยวเม็ดเงินในตลาดเกม ตามหลังค่ายหนังอินดี้อย่าง Annapurna ค่าย Skydance Media ผู้ผลิตหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Top Gun: Maverick และ Mission: Impossible หลายภาค
ktopinion@nationgroup.com
● ทัศนีย์ สาลีโภชน์ tassanee_sal@nationgroup.com ❚ จับกระแส กรุงเทพธุรกิจ
(ตารางที่ 1) บริษัทพัฒนาที่ดินในกรุงเทพฯและปริมณฑล ณ กลางปี 2567
(ตารางที่ 2) 9 บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่จีน ปี 2566
อันดับ บริษัท
โครงการ
มูลค่า (ล้านบาท) หน่วยขาย % มูลค่า
บริษัท
พันล้านหยวน
ล้านบาท
1 เอพี (ไทยแลนด์)
26
33,710 19,418 14,311 11,713 11,546 10,562 9,947 7,609 6,629 5,957 131,401
5,488
16.0% 9.2% 6.8% 5.5% 5.5% 5.0% 4.7% 3.6% 3.1% 2.8%
Poly Real Estate China Vanke Co. Greentown China
386.34 350.47 301.08 294.32 280.94 270.20 206.06 188.15 166.26
1,889,203 1,713,798 1,472,281 1,439,225 1,373,797 1,321,278 1,007,633 920,054 813,011 11,950,280
2 เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น 3 โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์
9 4
969
1,223 1,874 1,249
Blumhouse (บลัมเฮาส์) คือบริษัทโปรดักชั่นในลอสแองเจลีส ที่สั่งสมชื่อเสียงมาจากการสร้างหนังสยองขวัญต้นทุนต�่ำ แต่มีคุณภาพ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนสามารถก้าวขึ้นมายืนแถวหน้าของวงการ ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ผลงานของค่ายนี้หากเอ่ยชื่อออกมาคอหนังเป็นต้องร้องอ๋อ ไม่ว่า จะเป็นแฟรนไชส์ Paranormal Activity ที่นำ� ภาพจากกล้องวงจรปิด หรือกล้องแฮนดิแคมมาถ่ายท� ำได้อย่างชาญฉลาดจนแทบจะกลายเป็น ต้นต�ำรับเวลาพูดถึงหนังแนวนี้ แฟรนไชส์หนังผีชื่อดัง Insidious, Sinister, Split, Happy Death Day, The Black Phone, M3GAN แฟรนไชส์ The Purge ส่วนผลงานคุณภาพก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Get Out ที่ คว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมไปครอง และ ท� ำให้ชื่อของ Blumhouse เฉิดฉายขึ้นมาในฐานะค่ายหนังสยองขวัญ คุณภาพ นอกจากนี้ยังมี BlacKkKlansman ผู้ชนะออสการ์สาขาบท ภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ประจ� ำปี 2019 รวมไปถึง Whiplash หนังขวัญใจคนดูและนักวิจารณ์ที่ไปไกลถึงขนาดได้เข้าชิงออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกันเลยทีเดียว ถึงแม้จะไปได้สวยในวงการภาพยนตร์ แต่ Blumhouse ไม่ หยุดอยู่เพียงแค่นั้น แต่กลับน�ำทรัพยากรและความเชี่ยวชาญที่ตัวเองมี ไปลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่องและมีเม็ดเงินมหาศาลอย่าง ธุรกิจเกม โดยบลัมเฮาส์ประกาศว่าจะหันไปท� ำธุรกิจเกมที่อ้างอิงมาจาก หนังสยองขวัญเป็นหลัก โดยเกมแรกที่จะปล่อยออกมาคือ Fear the Spotlight ที่เป็นการแสดงความคาราวะต่อหนัง teen horror ยุค 90 Abhijay Prakash ประธานบลัมเฮาส์ให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่ หันมารุกธุรกิจนี้เป็นเพราะมองเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นจากปัจจัยเกี่ยวเนื่องกัน หลายอย่าง “ผมว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะอยู่ในแวดวงบันเทิงโดยไม่สังเกตเห็น หรือรับรู้เรื่องเกม ตลาดนี้เติบโตขึ้นทั่วโลก แล้วผู้เล่นก็หลากหลาย ซึ่งมันสอดคล้องกับกลุ่มคนดูที่เรามีอยู่แล้ว มันจึงมีโอกาสทางธุรกิจส�ำหรับ เราที่จะท�ำในสิ่งที่เราท�ำอยู่แล้วในหนัง แล้วน�ำมันมาใช้กับในเกมด้วย” ทั้งนี้ บลัมเฮาส์ถือเป็นค่ายหนังรายล่าสุดที่โดดลงมาเก็บเกี่ยวเม็ดเงิน ในตลาดเกม ตามหลังค่ายหนังอินดี้อย่าง Annapurna ค่าย Skydance Media ผู้ผลิตหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Top Gun: Maverick และ Mission: Impossible หลายภาค ขณะที่สตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่าง Warner Bros. Discovery นั้น แตกบริษัทผลิตเกมที่อ้างอิงจากหนังในค่ายของตัวเองมานานร่วม 20 ปีแล้ว เช่น เกมจากหนัง Harry Potter อย่าง Hogwarts Legacy, Quidditch Champions เกมจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่ายดีซีอย่าง Batman, Justice League ฯลฯ Danny Bilson ผู้อ�ำนวยการ USC Games ได้พูดถึงธุรกิจเกม เอาไว้ได้น่าสนใจว่า “มันไม่ใช่แค่เรื่องของเม็ดเงินที่จะเก็บเกี่ยวได้เท่านั้น แต่การเล่นเกมคือวัฒนธรรม การมาลงทุนในธุรกิจเกมก็เปรียบเสมือน การตกปลาในที่ที่มีปลาอยู่ชุกชุมนั่นเอง” Josh Chapman ผู้ร่วมก่อตั้ง Konvoy Ventures เวนเจอร์แคปิตอล ในเดนเวอร์ที่เน้นการลงทุนในธุรกิจเกมเป็นหลัก ให้ความเห็นว่า “ไม่ใช่เรื่อง น่าประหลาดใจเลยที่ค่ายหนังฮอลลีวูดจะมองธุรกิจเกมเป็นรายได้เสริม เพราะมันเป็นวิธีน�ำเอาทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ของพวกเขาไปหาฐาน แฟนกลุ่มใหม่นั่นเอง” ค่ายหนัง Blumhouse โดดมาท�ำ ธุรกิจเกม
4
ศุภาลัย
10 11
China Overseas L & Development
5 แสนสิริ
China Resources Land Chjina Merchants Shekou Country Garden Holdings
6 เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ 7 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 8 ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้
3 2 5 4 5
441 602
1,850
C&D Real Estate Longfor Properties
9 เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย)
327
10 พฤกษา เรียลเอสเตท
1,166 15,189
มูลค่ารวม
2,444.00
รวม
62%
ที่มา: บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ที่มา: www.statista.com
(ตารางที่ 3) 10 บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในสหรัฐ ปี 2565
(ตารางที่ 4) 10 บริษัทนายหน้ารายใหญ่ในสหรัฐ ปี 2566
ชื่อบริษัท
จ�ำนวนหน่วย
มูลค่า (พันล้านดอลลาร์)
มูลค่า (ล้านบาท)
อันดับ ชื่อบริษัท
จ�ำนวนหน่วย มูลค่า (พันล้านดอลลาร์) มูลค่า (ล้านล้านบาท)
D.R. Horton Lennar Corp. PulteGroup
80,000 59,000 29,000 21,000 13,000 13,000 12,800 11,000 10,000 10,000 258,800
27.0 25.0 13.0
945,000 875,000 455,000 304,500 252,000 227,500 175,000 129,500 147,000 105,000
1 2 3 4 5 6 7 8 9
Compass
177,716 252,023 355,052 235,861 21,606 97,961 46,549 35,232 22,967 48,905
184,452 176,229 143,578 133,807 34,402 33,840 27,497 22,610 22,003 21,208 799,627
6,640,285 6,344,261 5,168,826 4,817,042 1,238,482 1,218,250 989,883 813,976 792,092 763,472 28,786,570
Anywhere Advisors
eXp Realty
NVR
8.7 7.2 6.5 5.0 3.7 4.2 3.0
HomeServices of America
Taylor Morrison
Douglas Elliman Hanna Holdings Inc
KB Home
Meritage Homes Corp. Clayton Properties Group Century Communities
Redfin
@Properties
Side
LGI รวม
10
The Real Brokerage, Inc.
103.3
3,615,500
รวม
1,293,872
ที่มา: www.statista.com
ที่มา: www.realtrends.coms
อนาคตอันมืดมน ของบริษัทพัฒนาที่ดินไทย
ประเทศไทยมีบริษัทพัฒนาที่ดินยักษ์ใหญ่ ครองส่วนแบ่งตลาดเกือบครึ่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่บริษัทเหล่านี้ มีอนาคตอันมืดมน ท�ำไมจึงเป็นเช่นนี้ จากผลการสำ� รวจในช่วงกลางปี 2567 ของ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า 10 บริษัทมหาชนและบริษัทในเครือ ครองส่วนแบ่งตลาด (จากการเปิดตัวหน่วย ขายใหม่ๆ ในครึ่งแรกของปี 2567) สูงสุดถึง 62% ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล นับว่ามีขนาดใหญ่มากถึง เกือบหนึ่งในสามของทั้งตลาด ขณะที่ในแง่จำ� นวนหน่วย 10 บริษัทแรก ที่ใหญ่ที่สุด ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 53% ของ ทั้งหมด ส่วนบริษัทที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม คาดว่าจะมีสัดส่วนเพียง 15% ของหน่วยขายที่เปิดใหม่ทั้งหมด ถ้าหมาย รวมทั้งปี มูลค่าการพัฒนาของบริษัทมหาชน 10 แห่งแรก จะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 262,802 ล้านบาท ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่มากจริงๆ แต่หากเทียบกับบริษัทพัฒนาที่ดินจีน ไทยยังมีขนาดเล็กมาก (ตาราง 2) มูลค่าการพัฒนา ของบริษัทมหาชน 10 แห่งแรกของไทยที่ ประมาณการไว้ทั้งปี 2567 จะเป็นเงินรวมกัน เพียง 262,802 ล้านบาท ยังเล็กกว่าบริษัทที่ เล็กที่สุดใน 9 อันดับแรกของจีนที่เมื่อปี 2566 ผลิตที่อยู่อาศัยมีมูลค่ารวมกันถึง 813,011 ล้านบาท (บริษัท Longfor Properties) ดังนั้น หากบริษัทพัฒนาที่ดินจีนเข้ามา ในประเทศไทย ก็จะถึงคราวหายนะของ บริษัทพัฒนาที่ดินไทยอย่างแน่นอน และ จากเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไม่ว่า จะเป็น พายุ อุณหภูมิในหน้าร้อนสูงเป็น ประวัติการณ์ รวมถึงไฟป่าและอากาศแล้ง เพาะปลูกไม่ได้ที่ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น อย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากภาวะ climate change หลายประเทศให้ความสำ� คัญกับเรื่อง ของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึง การท�ำสัญญาต่างๆ เพื่อมุ่งไปสู่ net zero economy และการส่งเสริมให้ใช้ renewable energy (พลังงานทดแทน) จนบางที่มีการ เรียกร้องให้ถึงกับหยุดการใช้พลังงานจาก ฟอสซิลโดยสมบูรณ์ ในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะบอกถึง ความสำ� คัญของอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิล ต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม การบริโภค รวมถึง คุณภาพชีวิต ที่หากเรามองในอีกมุมหนึ่งอาจ จะพบว่า สภาพความเป็นอยู่ของประชากร ส่วนใหญ่ในปัจจุบันรวมถึงการขยายตัวทาง เศรษฐกิจ social mobility ของประชากร คุณภาพชีวิต อาจจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเราไม่มีอุตสาหกรรมภาคพลังงานและ ปิโตรเคมีที่ใช้ fossil base โดยที่เรายังไม่มี เทคโนโลยีที่จะมาทดแทนกระบวนการผลิต หรือพลังงานนั้นๆ ในอนาคตอันใกล้ 1.อุตสาหกรรมภาคการขนส่งขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมภาคการขนส่งนั้น ปัจจัย สู่ความส� ำเร็จที่ส� ำคัญที่สุดที่จะแข่งขันได้ คือ ต้นทุนการขนส่งต่อระยะทาง และ พลังงานที่ภาคการขนส่งใช้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น ดีเซลของรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่วิ่งระยะ ทางไกลๆ bunker fuel ของเรือขนส่งตู้
● โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัย-ประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย www.area.co.th ❚ อสังหาริมทรัพย์ต่างแดน กรุงเทพธุรกิจ
และยิ่งพิจารณาในแง่มูลค่าของสินค้าที่ขาย ก็สูงถึง 28.787 ล้านล้านบาท เมื่อบริษัทพัฒนาที่ดินใหญ่ที่สุดที่มี ยอดขายรวมกัน 3.6155 ล้านล้านบาท หาก สมมติว่าได้กำ� ไรปีละ 8% ก็เป็นเงินประมาณ 280,000 ล้านบาท แต่ในกรณีบริษัทนาย หน้าที่มียอดขาย 28.787 ล้านบาท สมมติได้ กำ� ไรสุทธิเพียง 2% จากค่านายหน้าประมาณ 6% ก็เป็นเงินถึง 570,000 ล้านบาท สูงกว่า ของบริษัทพัฒนาที่ดิน ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าบริษัทพัฒนาที่ ดินใหญ่ๆ ก็จะค่อยๆ ลดบทบาทลง เพราะ ความต้องการบ้านใหม่จะลดลง การซื้อขายบ้าน มือสองจะมีราคาถูกกว่า ได้ทำ� เลดีกว่า กิจการ นายหน้าจะเฟื่องฟูขึ้นมา และรวมศูนย์เป็น บริษัทนายหน้าขนาดยักษ์มากยิ่งขึ้น ส่วนบริษัท พัฒนาที่ดินรายย่อยก็อาจมีบทบาทมากขึ้น ในท้องถิ่นต่างๆ แต่เป็นบริษัทเล็กๆ ที่มีออร์เดอร์ จากการสั่งสร้างมากกว่าการสร้างบ้านและ ห้องชุดจำ� นวนมากๆ ออกมาขายเช่นเดิม และด้วยอ� ำนาจของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัทนายหน้า ใหญ่ที่สามารถจัดหาเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ดีและ มากกว่า ก็จะกลายเป็นเจ้าตลาดไปในอนาคต ขนาดใหญ่หรือเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ที่ใช้พลังงานจาก fossil ดังที่กล่าวไว้ใน ข้อแรก ตัวเหล็กที่ใช้ในการสร้าง wind turbine รวมถึงฐานและเสากังหันลม (tower) ก็จำ� เป็น ที่จะต้องผลิตและใช้พลังงานในการผลิตจาก ฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็น coking coal ที่ใช้ใน blasted furnace และค่าความร้อนสูงที่ ใช้ natural gas จากการประมาณคร่าวๆ ในปัจจุบัน เหล็ก 1 ตันที่ใช้ในการก่อสร้าง turbine ใช้พลังงานสูงถึง 35 gigajoules และยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้พลังงานประเภท อื่นแทนได้ นอกจากนี้ส่วนประกอบของใบพัด ที่เรียกว่า airfoils ของตัวกังหันลม (wind turbine) เอง ซึ่งส่วนใหญ่มี 3 ใบพัด บางอัน มีความยาวถึง 60 เมตร หนัก 15 ตัน ที่มี core ทำ� จาก balsa หรือ foam และเคลือบ ภายนอกด้วยอีพ็อกซีเรซิ่นเสริมใยแก้ว (glass-fiber-reinforced epoxy) หรือ โพลีเอสเตอร์เรซิ่น ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์เอทิลีน และมาจากก๊าซธรรมชาติ โดยเฉลี่ยการผลิตอีพ็อกซีเรซิ่นเสริม ใยแก้วหนึ่งตันใช้พลังงานในการผลิต 170 gigajoules นี่ยังไม่นับพวกนำ�้ มันหล่อลื่น ที่ใช้ในการหล่อลื่น gearbox หรือ turbine ซึ่งล้วนผลิตจาก fossil base ดังนั้น แม้เรา
มูลค่ารวมของบริษัท พัฒนาที่ดินจีน 9 แห่ง ที่ใหญ่ที่สุดเป็นเงินสูงถึง 11,950,280 ล้านบาท หรือราวสองในสามของ GDP ของไทย ที่ราวๆ 18 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามตลอดช่วงที่ผ่านมา ทั้งจีนและไทยต่างสร้างที่อยู่อาศัยออกมา มากมาย ความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ก็ ลดลงกลายเป็นตลาดบ้านมือสองแทน จากการส� ำรวจของศูนย์ข้อมูลฯ พบว่า ประเทศไทยในปี 2525 มีที่อยู่อาศัยรวมกัน ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 1 ล้านหน่วย แต่พอถึงปี 2567 หรืออีก 42 ปีต่อมา มีการผลิตที่อยู่อาศัยใหม่ 3 ล้านกว่าหน่วย (มากกว่าช่วง 200 ปีแรก ถึง 2 เท่าตัวหรือมีที่อยู่อาศัยรวมเป็น 3 เท่า ของที่อยู่อาศัยเดิม)
ทำ� ให้ในอนาคต ความต้องการสร้าง บ้านใหม่ๆ จะลดน้อยลง เพราะสามารถ นำ� บ้านมือสองมาซื้อขายต่อกันได้ เพราะ บ้านมือสองมักจะถูกกว่า ท�ำเลที่ตั้งดีกว่า แม้จะต้องซ่อมแซมบ้างก็ตาม เมื่อหันมามองบริษัทพัฒนาที่ดินที่ใหญ่ ที่สุดในสหรัฐ ณ ปี 2565 ใน 10 บริษัทแรก มีมูลค่าการพัฒนาโดยรวม 3.6155 ล้านล้านบาท หรือมีขนาดเพียง 30% ของจีนเท่านั้น หลาย บริษัทพัฒนาที่ดินมานับร้อยปีในสหรัฐก็ ไม่ได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดมากนัก เพราะ การสร้างที่อยู่อาศัยให้มีแบรนด์เป็นที่ ยอมรับกันทั่วประเทศถึง 50 มลรัฐเป็นสิ่งที่ เป็นไปได้ยาก บริษัทนายหน้า ใหญ่ๆ ในสหรัฐโดยเฉพาะ 10 บริษัทแรก มีการขายทรัพย์สินรวมกัน ถึง 1,293,872 หน่วย มากกว่าของบริษัท พัฒนาที่ดินที่ขายอยู่ 258,800 หน่วยเสียอีก
ถ้าไม่มี ‘เชื้อเพลิงฟอสซิล’ จะอยู่ได้หรือไม่
โปรตีนทางอาหารของประชากรทั้งโลก ดังนั้น หากไม่มีการผลิตปุ๋ยไนโตรเจนผ่าน กระบวนการดังกล่าว เราก็คงไม่สามารถที่ จะผลิตอาหารเพียงพอให้ประชากรบนโลก 8.1 พันล้านคนบริโภคได้ สิ่งสำ� คัญคือกระบวนการผลิตปุ๋ยดังกล่าว ที่เรียกว่า haber-bosch process นั้นใช้วิธี การดึงไนโตรเจนออกมาจากอากาศและ ไฮโดรเจน (Hydrogen) ของก๊าซธรรมชาติ (natural gas) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิง ฟอสซิล รวมถึงยังใช้พลังงานความร้อนของแก๊ส (gas) ในการทำ� กระบวนการ synthesis ซึ่งในปัจจุบัน เรายังไม่มีเทคโนโลยีทดแทน ที่เป็น carbon free หรือไม่มีการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสำ� หรับการผลิตปุ๋ยดังกล่าว จ�ำนวนกว่า 145 ล้านตันต่อปี ดังนั้นนอกจาก 3 อุตสาหกรรมดังกล่าว ที่ผู้เขียนได้กล่าวถึงข้างต้น ยังมีอีกหลาย อุตสาหกรรมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันและ ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการบริโภคที่ยังจ� ำเป็นที่จะต้องพึ่งพา พลังงานรวมถึงวัตถุดิบจากอุตสาหกรรม ที่ใช้ fossil fuel หรือแม้กระทั่งใช้ fossil fuel เป็นหลัก ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าจนกว่าที่เราจะ มีเทคโนโลยีที่จะมาทดแทนการใช้วัตถุดิบ หรือ Fossil fuel ได้ในอนาคตอันใกล้นี้ co-exist ระหว่างพลังงานทดแทนกับ อุตสาหกรรม fossil fuel จะยังเกิดขึ้นต่อไป ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า การจะบอกให้หลายๆ ประเทศหรือหลายๆอุตสาหกรรมเลิกใช้ fossil fuel โดยสมบูรณ์คงเป็นไปไม่ได้
❚ บทความพิเศษ กรุงเทพธุรกิจ ● ณรัล ลีลามานิตย์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ
จะสนับสนุนให้เรามีการใช้ Renewable energy มากขึ้นเท่าไหร่ อุตสาหกรรม renewable energy ในปัจจุบันก็ยัง ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้หากไม่มีอุตสาหกรรม น�้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี 3. อุตสาหกรรมปุ๋ย (Synthetic nitrogenous fertilizers) สำ� หรับการเกษตร ประชากรบนโลกเพิ่มขึ้น 3 เท่าใน ระยะเวลา 70 ปี จาก 2.5 พันล้านคนในปี ค.ศ. 1950 สู่ 8.1 พันล้านคนในปี 2024 ซึ่งการเพิ่ม ขึ้นของประชากรตามมาด้วยความต้องการ การบริโภคอาหารที่มากขึ้น ซึ่งการที่ภาค การเกษตรสามารถเพิ่มปริมาณอาหารให้ เพียงพอต่อความต้องการของประชากรที่ เพิ่มขึ้นได้นั้น ก็มาจากความสามารถในการ ผลิตปุ๋ยที่เรียกว่า synthetic nitrogenous fertilizers ที่มาจากการใช้แอมโมเนีย (NH3) ผ่านกระบวนการเป็นองค์ประกอบขึ้น โดยการเปลี่ยนก๊าซไนโตรเจนในอากาศมาเป็น แอมโมเนียเหลวได้สำ� เร็จโดย กระบวนการ ที่เรียกว่า haber-bosch process กระบวนการผลิตปุ๋ยไนโตรเจนดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนถึง 50% ของปุ๋ยไนโตรเจน ที่ใช้ในการเพาะปลูกพืชเกษตรทั่วโลก และ คิดเป็นปริมาณถึง 145 ล้านตันต่อปี (เพิ่มขึ้น จากแค่ 3.5 ล้านตันในปี 1950) และเนื่องจาก พืชทางการเกษตรคิดเป็น 85% ของแหล่ง
ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ที่วิ่งข้ามมหาสมุทร หรือ เครื่องบินที่เราใช้โดยสาร หรือขนสินค้าที่ใช้ jet fuel ล้วนเป็นพลังงานและเทคโนโลยีที่มีการ พัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี หรือเกือบร้อยปีล้วนมีนำ�้ มันดิบเป็นตัวตั้งต้น และทำ� ให้ต้นทุนด้านพลังงานของภาคการขนส่ง ต่อระยะทางมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเทคโนโลยี แบตเตอรี่ในปัจจุบันที่มีอยู่และในอนาคตอันใกล้นี้ ภาคการขนส่งทางบกอาจจะมีความเป็นไปได้ มากที่สุดที่จะเปลี่ยนไปใช้รถบรรทุกไฟฟ้า อย่างไรก็ดีด้วยขนาดความจุของแบตเตอรี่ และนำ�้ หนักของแบตเตอรี่ รวมถึง charging infrastructure ที่ยังไม่เพียงพอและใช้เวลา ในการชาร์จนาน ทำ� ให้ การขนส่งด้วยรถบรรทุก ไฟฟ้าขนาดใหญ่วิ่งระยะทางไกลๆ ยังไม่ใช่ คำ� ตอบในปัจจุบันและอาจจะต้องใช้เวลา อย่างน้อยมากกว่า 5-10 ปีถึงอาจจะมีเทคโนโลยี ที่เหมาะสมสำ� หรับการวิ่งขนสินค้าในระยะ ทางไกลเกินกว่า 600 กิโลเมตรต่อวัน
2.อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่มา
จากลม
หนึ่งในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ที่มีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต�่ ำที่สุดก็คือ พลังงานหมุนเวียนที่มาจากลม (renewable wind energy) อย่างไรก็ดีเชื่อว่าผู้อ่าน อาจจะสงสัยว่าท� ำไมผู้เขียนถึงกล่าวว่า อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่มาจากลม ต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมและภาคการผลิต ที่ใช้ fossil base เป็นหลัก ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านนึกภาพตามว่าการที่ เราจะสร้าง wind turbine ขนาด 5 เมกะวัตต์ นั้นประกอบไปด้วย เหล็กโดยเฉลี่ย 150 ตัน สำ� หรับการสร้างฐาน reinforce concrete เหล็กอีก 250 ตันใน rotor hubs และ nacelles สำ� หรับ gearbox กับ generator และเหล็กอีก 500 ตันส�ำหรับเสากังหันลม (tower) ทั้งหมดถูกขนส่งมาโดยรถบรรทุก
Made with FlippingBook Annual report maker